คำถามที่พบบ่อย

ได้หากตัวอย่างชิ้นเนื้อดังกล่าวได้รับการจัดเก็บและเตรียมไว้อย่างเหมาะสมอย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยเคยได้รับการรักษาหลายครั้งหลังจากที่เก็บชิ้นเนื้อนั้นอาจทำให้ตัวอย่างไม่สะท้อนสถานะปัจจุบันของโรค ในกรณีนี้แนะนำให้พิจารณาเก็บชิ้นเนื้อใหม่เพื่อความแม่นยำในการวิเคราะห์

เมื่อได้รับตัวอย่างเราจะดำเนินการตรวจสอบคุณภาพ (QC) ทันที หากพบว่าตัวอย่างไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดจะมีการแจ้งให้ทราบภายใน 2–3 วันหลังจากได้รับตัวอย่างและสามารถเลือกส่งตัวอย่างใหม่ หรือปรึกษาทางเลือกอื่น ๆ ได้ตามความเหมาะสมโดยจะมีการอัปเดตความคืบหน้าให้ทุกฝ่ายทราบตลอดทุกขั้นตอนเพื่อลดความกังวลที่อาจเกิดขึ้นจากความล่าช้าในการรับข้อมูลที่สำคัญ

ACT Genomics รองรับตัวอย่างดังต่อไปนี้:เนื้อเยื่อ (FFPE blocks หรือสไลด์), เลือด, DNA, เซลล์บล็อก (Cell block ≥1×10⁶),ของเหลวไขสันหลัง (CSF) โดยทั่วไป ตัวอย่างเนื้อเยื่อ FFPE เป็นรูปแบบที่ได้รับการตรวจบ่อยที่สุดและมักเป็นชนิดตัวอย่างที่ห้องปฏิบัติการแนะนำให้ใช้ในการตรวจจีโนม

ผู้ป่วยจำนวนมากสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการตรวจจีโนมของACT Genomics จากบริษัทประกันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นประเภทและความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันที่ผู้ป่วยถืออยู่ หรือเหตุผลที่แพทย์ส่งตรวจจีโนมในแต่ละกรณี โดยขอแนะนำให้ทำการติดต่อสอบถามบริษัทประกันโดยตรงเพื่อขอรายละเอียดที่ชัดเจนที่สุดในแต่ละเคส

ห้องปฏิบัติการของเราผ่านการรับรองจากCollege of American Pathologists (CAP) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดระดับโลกนอกจากนี้ เรายังมีชุดตรวจจีโนมคุณภาพสูงหลายแบบให้เลือกตามความต้องการที่หลากหลายของผู้ป่วยคุณสามารถเลือกการตรวจที่เหมาะสมที่สุดในแง่ของความแม่นยำและความคุ้มค่าในกรณีที่พบได้ไม่บ่อยนัก หากตัวอย่างของผู้ป่วยไม่เหมาะสมกับ Panel ที่เลือกไว้เราก็มี Panel ทางเลือกอื่นให้เลือกทันที สิ่งนี้ช่วยหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองตัวอย่างของผู้ป่วยและไม่ต้องเสียเวลาหาผู้ให้บริการรายใหม่

ACT Genomics สามารถให้คำปรึกษาแบบ 1-on-1 กับผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อพูดคุยถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทั้งหมดจากรายงานการตรวจ โดยทีมงาน Medical science liaison (MSL) ของเราสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาได้

ผู้แทน ACT Genomics ของเราจะสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับ Panel ที่เหมาะสมตามข้อมูลผู้ป่วย เช่น ประเภทมะเร็ง, วัตถุประสงค์ของการตรวจ, Biomarker, ข้อควรพิจารณาทางการเงิน และอื่นๆ

ผลการทดสอบจีโนมจะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโรคมะเร็ง ซึ่งจะทำให้แพทย์สามารถเตรียมการรักษาได้อย่างแม่นยำ

สามารถใช้ชิ้นเนื้อเดิมได้หากชิ้นเนื้อได้รับการจัดเก็บและเตรียมอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยได้รับการรักษาหลายครั้งนับตั้งแต่การผ่าตัดชิ้นเนื้อ ผลที่ตรวจได้จากตัวอย่างชิ้นเนื้อเก่าอาจไม่ตรงต่อข้อมูลทางจีโนมิกส์ของโรคมะเร็จในปัจจุบัน ดังนั้นทางเราแนะนำให้ทำการใช้ชิ้นเนื้อใหม่เพื่อความแม่นยำ

สองตัวอย่างที่พบมากทีสุดในการส่งตรวจคือชิ้นเนื้อ (FFPE) และเลือด โดยตัวอย่างชนิดเลือดมีข้อจำกัดบางประการซึ่งอาจส่งผลต่อผลตรวจได้ ดังนั้นการส่งตรวจด้วยชิ้นเนื้อเป็นที่แนะนำมากกว่า

ห้องปฏิบัติการของเราได้รับการรับรองมาตรฐานจาก College of American Pathology (CAP) นอกเหนือจากการรับรอง CAP ของเราแล้ว ACT Genomics ยังมีการทดสอบจีโนมคุณภาพสูงและหลากหลาย ความหลากหลายนี้จะช่วยให้แพทย์มีดัวเลือกการทดสอบที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับความต้องการของผู้ป่วย ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องตรวจจีโนมที่เฉพาะเจาะจง แพทย์สามารถสั่งตรวจ Panel ที่เหมาะสมที่สุดจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเรา วิธีนี้จะหลักเลี่ยงไม่ให้ด้วอย่างของผู้ป่วยสูญเปล่า หรือแพทย์จะต้องค้นหาตัวเลือกอื่นๆ (เช่น ผู้ให้บริการทดสอบจีโนมอื่นๆ เป็นต้น)

เนื่องจากความซับซ้อนของการส่งตรวจ การทดสอบของเราสามารถสั่งได้โดยแพทย์เท่านั้น เพราะแพทย์เจ้าของไข้จะมีความเข้าใจต่อประวัติคนไข้และามารถเตรียมแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ป่วย

‍

การทดสอบจีโนมส่วนมากจะเป็นการสำรองจ่ายโดยผู้ป่วย อย่างไรก็ตามบริษัทประกันเอกชนบางแห่งจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจทั้งหมด สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทประกันของคุณ

‍

หากประเภทของยีนและการกลายพันธุ์เกี่ยวข้องกับมะเร็งทางพันธุกรรม เช่น BRCA1/2 เป็นต้น สมาชิกในครอบครัวของคุณอาจพิจารณาทำการทดสอบทางพันธุกรรม เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะติดมะเร็งทางพันธุกรรม โดยรายงานผลจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์สำหรับการทดสอบ ตัวอย่างเช่น: i เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบโรคสามารถส่งตรวจเลือดเพื่อประเมินระยะของโรคมะเร็งได้ ii) เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษา สามารถนำเลือดหรือชิ้นเนื้อใหม่เพื่อทำการทดสอบจีโนมอีกครั้งเมื่อโรคมะเร็งลามหรือกำเริบ